สวนพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน
(ตากะจะ)
และศาลหลักเมืองใหม่เมืองขุขันธ์
ประวัติความเป็นมา
เมืองขุขันธ์เดิมเป็นชุมชนเขมรป่าดง
มีผู้นำชุมชน คือ ตากะจะ ต่อมาพญาช้างเผือกแห่งกรุงศรีอยุธยา
ในสมัยพระเจ้าอยู่หัวสุริยาศน์อมรินทร์ หนีออกจากโรงมาทางเทือกทิศตะวันออกเฉียงใต้
จึงทรงให้ทหารเอกสองคนนามว่า “ทองด้วง” และ “บุญมา” (ซึ่งต่อมาก็คือ
สมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ปฐมกษัตริย์แห่งราชวงศ์จักรี
และสมเด็จพระราชบวรมหาสุรสีหนาถ)ออกติดตามมาจนถึงชุมชนเขมรป่าดง
ซึ่งก็คือบริเวณโคกลำดวน ซึ่งเป็นบริเวณหมู่บ้านที่ตากะจะอาศัยอยู่
ตากะจะพร้อมลูกบ้านเมื่อทราบเช่นนั้น จึงได้ช่วยกันติดตามพญาช้างเผือกจนพบ
และนำส่งกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ เมื่อพระเจ้าเอกทัศน์ทรงทราบเหตุการณ์ที่ตากะจะ
และพวกพ้อง ได้ช่วยกันติดตามช้างเผือกมงคลนี้ จึงได้โปรดเกล้าฯ
แต่งตั้งตากะจะและพรรคพวกให้มีบรรดาศักดิ์ระดับ “หลวง”
ซึ่งตากะจะ ได้รับพระราชทานให้เป็น “หลวงแก้วสุวรรณ”
และเป็นหัวหน้าหมู่บ้านชาวเขมรป่าดงบริเวณเมืองขุขันธ์
ต่อมาหลวงแก้วสุวรรณได้ส่งส่วยซึ่งเป็นที่จำเป็นในกรุงศรีอยุธยา
พระเจ้าเอกทัศน์ทรงพึงพอใจในความจงรักภักดีของหลวงแก้วสุวรรณและลูกบ้าน ที่ได้ส่งส่วยมาให้เมืองหลวงเป็นประจำ
จึงทรงโปรดเกล้าฯ เลื่อนบรรดาศักดิ์ให้ตากะจะอีกครั้ง จากหลวงแก้วสุวรรณ เป็น “พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน” ยกฐานะบ้านโคกลำดวนเป็น “เมืองขุขันธ์” และให้พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน
เป็นเจ้าเมืองขุขันธ์ ซึ่งท่านก็คือเจ้าเมืองขุขันธ์ท่านแรกและเป็นผู้ก่อตั้งสร้างบ้านแปลงเมืองขุขันธ์ด้วยนั่นเอง
จากความสำคัญของเมืองขุขันธ์ในข้างต้น
ทางอำเภอขุขันธ์จึงเห็นความสำคัญในส่วนนี้จึงได้ประชุมกับ อปท.ในพื้นที่ เพื่อหาแนวทางในการสร้างอนุสาวรีย์เจ้าเมืองขุขันธ์
“พระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน”
ขึ้นในปี พ.ศ.2547 และได้มีการวางศิลาฤกษ์อนุสาวรีย์พระยาไกรฯ
เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2547 และแล้วเสร็จในต้นปี
2548 หลังจากนั้นจึงมีการปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ฯ
ให้สวยงาม โดยบริเวณอนุสาวรีย์ได้นำรูปหล่อครอบครัวช้างเผือกมงคลมาตั้งประดับบารมีให้อนุสาวรีย์ฯ
ด้วย เนื่องจากมีแนวคิดย้อนกลับไปว่า หากไม่มีช้างเผือกมงคลแตกโรงหนีเตลิดหลุดออกมาหาครอบครัวที่บริเวณเมืองขุขันธ์นี้
ก็คงจะไม่มีเมืองขุขันธ์จนถึงทุกวันนี้ และตั้งชื่อบริเวณอนุสาวรีย์ฯ ว่า “สวนพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ)” และได้มีการจัดงานเฉลิมฉลององค์อนุสาวรีย์ฯ
เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2548 ซึ่งเป็นวันจัดงาน
รำลึกพระยาไกรภักดี ประเพณีแซนโฎนตา บูชาหลักเมือง ลือเลื่องกล้วยแสนหวี
ซึ่งก็ได้จัดงานอย่างยิ่งใหญ่โด่งดังไกลไปทั่วประเทศ
ต่อมาในปี
2552 คณะสงฆ์อำเภอขุขันธ์ได้ประชุมพร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ในเรื่องศาลหลักเมืองขุขันธ์
โดยมีมติให้สร้างศาลหลักเมืององค์จำลององค์จริงขึ้นบริเวณสวนพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน
(ตากะจะ) เนื่องจากบริเวณศาลหลักเมืองแห่งเดิมมีขนาดคับแคบ และอยู่ในมุมอับ ไม่เป็นที่โดดเด่นแก่ผู้ที่ผ่านไปมาและพื้นที่เล็กไม่เหมาะที่จะประกอบพิธีขนาดใหญ่ได้นั่นเอง
และเพื่อเป็นการเสริมดวงให้เมืองขุขันธ์อีกด้วย ปัจจุบัน (ปี 2557) การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จสมบูรณ์ และมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง จนคืบหน้าไปกว่า
85% แล้ว เหลือเพียงการตกแต่งเก็บรายละเอียดและปรับภูมิทัศน์
คาดว่าใช้เวลาอีกไม่นานก็จะเสร็จสมบูรณ์
ปัจจุบัน
(ปี 2557) ได้มีการปรับปรุงบริเวณสวนพระยาไกรฯ แห่งนี้อย่างต่อเนื่อง
โดยมีการสร้างงูเจ็ดเศียรและซุ้มประตูแบบขอมโบราณหรือที่เรียกว่า โคปุระ
บริเวณทางเข้าสวนพระยาไกรฯ แห่งนี้ ซึ่งก็เพิ่มเสน่ห์และมนต์ขลังให้กับอนุสาวรีย์พระยาไกรฯ
และเมืองขุขันธ์อีกด้วย
อนึ่งเมื่อปี
2554 ซึ่งเป็นช่วงแรกๆที่เริ่มมีการก่อสร้างศาลหลักเมือง
ณ บริเวณสวนพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) ได้เกิดอัศจรรย์เหตุขึ้นกับต้นปาล์ม
ซึ่งปลูกอยู่สองข้างองค์อนุสาวรีย์พระยาไกรฯ กล่าวก็คือ ต้นปาล์มต้นที่ 10 ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือองค์อนุสาวรีย์พระยาไกรฯ(นับรวมจากใต้ - เหนือ) ได้ออกยอดใหม่
แต่ที่เป็นที่ประหลาดใจก็คือ ต้นปาล์มต้นนี้ออกยอดใหม่พร้อมกันถึง 9 ยอด และแต่ละยอดมีลักษณะคล้ายเศียรพญานาค 9 เศียร
เป็นที่ประหลาดใจกับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก ผู้ที่อยู่ใกล้-ไกล ที่ทราบข่าว
ต่างหลั่งไหลมาชมและสักการะเป็นจำนวนมาก บ้างก็ว่า “หรือว่าตาลเก้ายอดฟื้นคืนชีพ”
บ้างก็ว่า “เป็นอิทธิฤทธิ์บารมีของเจ้าเมืองขุขันธ์ทั้ง
9 ท่าน” เพราะเมืองขุขันธ์เคยมีเจ้าเมืองระดับพระยาถึง
9 ท่าน
ทำให้ข่าวนี้ลือเลื่องไปไกล...ต่อมาเมื่อยอดปาล์มผลิยอดเป็นใบแบบปกติ
ก็มีผู้นำองค์พระพุทธรูปมาประดิษฐานไว้เป็นอนุสรณ์แห่งความอัศจรรย์
ปัจจุบันยังคงมีผู้มาสักการะบูชาตามความเชื่อแบบไม่ขาดสาย
วัตถุประสงค์ในการสร้างอนุสาวรีย์เจ้าเมืองขุขันธ์
1.เพื่อเป็นสัญลักษณ์ให้เยาวชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงประวัติศาสตร์ของเมืองขุขันธ์และความดีของบรรพบุรุษ
ว่าในสมัยนั้นมีเจ้าเมืองทั้งหมดกี่คนและมีใครบ้าง
2.เพื่อต้องการเทิดทูนความกล้าหาญ
คุณงามความดีที่ท่านได้ก่อตั้งเมืองขุขันธ์ขึ้นมาเป็นอนุสรณ์สถานรำลึกเกียรติคุณของเจ้าเมืองขุขันธ์
3.เป็นศูนย์รวมใจของชาวอำเภอขุขันธ์
4.เป็นที่สักการะบูชาของชาวอำเภอขุขันธ์ และนักท่องเที่ยวที่สัญจรไปมาได้กราบไหว้
5.เสริมสร้างความสามัคคีของชาวอำเภอขุขันธ์ทุกคนให้เกิดความรักชาติ รักแผ่นดินเกิด
6.เพื่อให้เกิดความภาคภูมิใจในบ้านเกิด
นอกจากนี้บริเวณสวนพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน (ตากะจะ) แห่งนี้
ยังเป็นที่ประกอบพิธีแซนโฎนตา ซึ่งเป็นงานใหญ่ประจำปีของชาวขุขันธ์อีกด้วย
ที่ตั้งและการเดินทาง
สวนพระยาไกรภักดีศรีนครลำดวน
(ตากะจะ) ตั้งอยู่ใจกลางเมืองขุขันธ์
ลักษณะเป็นสวนหย่อมสวนสาธารณะขนาดกลางใจกลางเมือง ตั้งอยู่หัวมุมแยกขุขันธ์ ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของอาคารที่ว่าการอำเภอขุขันธ์
ระยะทางจากจังหวัดศรีสะเกษประมาณ 50 กิโลเมตร โดยใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 220
(สายศรีสะเกษ – ขุขันธ์) และห่างจากถนนสายยุทธศาสตร์
ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 24 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ เป็นระยะทางประมาณ
7 กิโลเมตร
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก : สภาวัฒนธรรมเมืองขุขันธ์
ขอขอบคุณภาพและข้อมูลบางส่วนจาก : สภาวัฒนธรรมเมืองขุขันธ์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น