วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ศาลตัดสินประหารชีวิต "ฆาตกรโหด" ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงสองพี่น้องชาวขุขันธ์เมื่อปี 2549


ศาลตัดสิน "ประหารชีวิตฆาตกรโหด" ฆ่าข่มขืนเด็กหญิงสองพี่น้องชาวขุขันธ์ เมื่อปี 2549


        หลายคนคงจำคดีสะเทือนขวัญนี้ได้ดี  เพราะช่วงเกิดเหตุ เป็นช่วงเทศกาลงานประเพณีแซนโฎนตา ซึ่งถือเป็นงานใหญ่ประจำปีของชาวขุขันธ์ ซึ่งแน่นอนว่าทุก ๆ คนก็ต้องยุ่งกับการ

เตรียมงานนี้ รวมถึงผู้ปกครองของ นัท และ แนน ทำให้ นัท และ แนน เด็กหญิงสองพี่น้องอยู่ที่บ้านเพียงลำพัง ซึ่งแน่นอนว่าหลายคนก็คงไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น
        ค่ำคืนวันที่ 18 กันยายน 2549 ซึ่งถือเป็นคืนสุดท้ายสำหรับการเตรียมงานแซนโฎนตาของหน่วยงานต่าง ๆ ประกอบกับคุณแม่ของทั้งสองเป็นข้าราชการ(คุณแม่เป็นครูพี่เลี้ยงของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก และคุณพ่อทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ และกำลังจะเดินทางกลับมางานแซนโฎนตา)  จึงต้องจำเป็นต้องไปช่วยหน่วยงานในสังกัดตนเอง ทำให้ นัท และ แนน เด็กหญิงสองพี่น้องอยู่บ้านเพียงลำพัง
        ตลอดทั้งคืนวันที่ 18 กันยายน 2549 ฟ้าแลบ ฝนตกหนักตลอดคืน จนเกือบสว่างถึงได้สร่างซา และกลางดึกของค่ำคืนนี้สถานีตำรวจภูธรปรือใหญ่ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคดีฆาตกรรมในครอบครัว ไม่ไกลจากสถานสงเคราะห์นิคมปรือใหญ่นัก เป็นการฆาตกรรมทั้งพี่สาวและน้องสาว ขณะที่แม่ออกไปช่วยงานบุญประเพณีแซนโฎนตา
        เหตุร้ายเกิดขึ้นราวสักทุ่มเศษ เกิดขึ้นกับพี่สาวที่เรียน ม.4 และน้องสาวที่เรียนอยู่ชั้น ป.5 เป็นพี่สาวและน้องสาวที่น่ารัก นิสัยดี  ตามคำบอกเล่าสภาพเหตุการณ์ ช่างน่าอนาถนัก ทั้งสองโดนทุบตี และล่วงละเมิด มิหนำซ้ำฆาตรกรโหดยังเอาร่างสองพี่น้องไปซุกซ่อนไว้ใต้ต้นมะพร้าว บริเวณทุ่งนาด้านหลังบ้าน ซุกซ่อนจากคราบเลือดที่เลอะรอบบ้าน ซุกซ่อนจากความผิดร้ายแรง
        รองฯหลอด แห่ง สภ.ปรือใหญ่ พร้อมคณะ และกำนัน รวมเกือบ 10 นาย/คน เข้าเยี่ยมชมสถานสงเคราะห์กลางดึก กว่าจะจัดการตรวจสอบในเบื้องต้นแล้วเสร็จก็เกือบ 2 นาฬิกาของวันที่ 19 กันยายน เข้าแล้ว
        ช่วงสายของวันที่ 19 กันยายน 2549 หัวหน้าส่วนราชการทุกท่านก็พร้อมเพรียงที่บ้านญาติของคุณแม่ผู้สูญเสียชีวิต ขณะที่บ้านที่เกิดเหตุถูกปิดล้อมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ และสองข้างทางก็เต็มไปด้วยผู้คน

และที่หนักไปกว่านั้น คุณแม่ของทั้งสองพี่น้อง ยังถูกผู้คนกล่าวหาว่าเธอมีชู้  และให้ชู้ไปฆ่าลูก


และล่าสุดเมื่อวานนี้( 10 พฤษภาคม 2557) คุณแม่ของทั้งสอง ก็ได้โพสต์เกี่ยวกับคดีฆาตกรรมของลูกสาวทั้งสองผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าฆาตกรถูกศาลตัดสินประหารชีวิต และใต้โพสต์ของคุณแม่ทั้งสอง มีความคิดเห็นหนึ่งที่เธอได้กล่าว อันมีใจความดังต่อไปนี้
…..“เห็นคุณครูร.ร.ขุขันธ์ เขาพากันเข้าใจว่าฉันซึ่งเป็นแม่ของเด็กหญิงณ้ฐพร แช่มโตนด ถูกกระทำชำเราเมืรอปี49 ฉันไปติดต่อประชีวิจให้ลูกสาว ผ.อ.อรพิน ถามคำแรก ข่าวเขาว่าเธอมีชู้ ให้ชู้ไปฆ่าลูกเพราะต.ร.บอกว่าแม่ไม่ให้ความร่วมมือ ขณะนี้ศาลให้ไปฟังคำพิพากษาผู้กระทำความผิดตัดสินประหารชีวิต มี่เข้าใจกันนั้นแม่ไม่ได้มีชู้ คุณครูอาจอยากทราบความเคลือนไหวของคดีกรุณาบอกเพื่อนๆครูด้วยนะคะช่วงเวลา 8 ปีฉันกับสามีเหมือนตายทั้งเป็นดีที่ว่าสามีไม่เป็นคนหูเบาเราอยู่ด้วยกันมาฮันไม่เคยมีพฤติกรรมตามที่สังคมกล่าวหายอมรับว่าจะทำอย่างไรจะให้คำกล่าวหานั้นพ้นมลทินจึงอยากโพสต์ให้คุณครูของลูกสาวทั้ง 2 ร.ร.และทุกๆท่านทั่วประเทศที่ต้องการอยากรู้เรื่องคดีว่าคืบหน้าไปถึงไหนทำใมเงียบเราไม่ได้เงียบเราสู้คดีและขื้นศาลตลอดระยะเวลา 8 ปีคะเรื่องจบแล้วคะเขาได้รับกรรมศาลตัดสินประหารชีวิต”…..


ทางเว็บขุขันธ์นครก็ต้องขอแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์นี้เป็นอย่างยิ่ง
และฆาตกรโหดก็ได้รับโทษอันสาสมกับกรรมที่ตนเองได้ทำไว้แล้ว และก็ขอให้ทั้งสองไปสู่สุขคติ สู่ภพภูมิที่ดี อย่าได้เจอคนใจร้ายเช่นนี้อีกเลย

ภาพจากโพสต์ของคุณแม่ของเด็กหญิงสองพี่น้องที่เสียชีวิต










อีกโพสต์หนึ่งของคุณแม่ผู้เสียชีวิต
เมื่อ 18 ก.ย. 48 เป็นวันที่โหดร้ายที่สุดสำหรับครอบครัวของดิฉันที่สูญเสียลูกสาวที่เป็นแก้วตาดวงใจทั้ง 2 คนมีใครบ้างที่จะมีชีวิตอยู่ได้ข้ากับสามีต่อสู้ชีวิตมา 8 ปี เหมือนกับตายทั้งเป็นเพราะอยากจะล้างมลทินให้กับตัวเองที่ข่าวกล่าวหาว่าข้าพเจ้ามีชู้บอกให้ชู้ฆ่าลูกตัวเองท่านครูบาอาจารย์ร.ร.ขุขันธ์และคุณครูร.ร.อนุบาลศรีประชานุกูลรวมถึงประชาชนทั่วประเทศที่ติดตามข่าวเรื่องไม่ได้เงียบหายไปไหนตลอดระยะเวลา8ปีที่ผ่านมาก็ขึ้นศาลสู้คดีตลอดมาอยากให้คุณครู ร.ร.ของลูกสาว ทั้ง 2 ร.ร.โดยเฉพาะ ผ.อ.หญิง ร.ร. ลูกสาวคนโตถามคำแรกว่าเขาว่าเธอมีชู้ให้ชู้ฆ่าลูกตัวเอง นี่คือความเข้าใจของเกือบมุกคนมี่เข้าใจเช่นนั้นฉะนั้นถ้าใครก็ตามที่ได้อ่านข้อความที่ข้าพเจ้าเขียนโปรดรับรู้ด้วยว่าศาลตัดสินประหารชีวิตจับคนกระทำความผิดได้แล้ว









อีกโพสต์หนึ่งของคุณแม่ผู้เสียชีวิต

วันพุธที่ 7 พ.ค. 57 ไปศาลจัหวัดศรีสะเกษห้องะจารณาคดี ห้อง9 ศาลได้อ่านคำพิพากษาให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายมาตรา 90 ให้ประหารชีวิตสถานเดียว
 






คนเราจิตใจมันโหดร้ายเสียจริงนะ
ช่างทำได้ลงคอกับน้องผู้หญิงถึง 2 คน เป็นลูกสาวเพียง 2 คนของครอบครัว ณ ตอนนี้หัวใจของผู้เป็นแม่จะบุบสลายเพียงใด คงไม่ยากแก่การคาดเดา


เรียบเรียงข้อมูลจากโพสต์ของคุณแม่ผู้เสียเสียชีวิตผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว Rochana Linthong และเรียบเรียงจากบทความ เทศกาลกล้วยแสนหวี ประเพณีแซนโดนตา บูชาหลักเมือง ประจำปี 2549 จากบล็อก http://www.gotoknow.org/posts/50774  เขียนโดยผู้ใช้บล็อก มงคล ยะภักดี

หากข้อมูลข่าวนี้ใข้อผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนประการใด ผู้เขียนก็ต้องขออภัยด้วย

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น