วันพุธที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2560

ปิดถนนโค่นยางยักษ์ขุขันธ์ รถอ้อมเกือบ 20 กม. สะท้อนแนวคิดสู่การพัฒนาทางเลี่ยงเมืองขุขันธ์


เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2560 โซเชียลเน็ตเวิร์คและผู้ใช้ Facebook ในอำเภอขุขันธ์ ได้มีการโพสต์และลงข่าวเกี่ยวกับการโค่นต้นยางยักษ์ ที่ยืนต้นตายจากการถมดินหนาที่โคนต้น บริเวณซุ้มยางใหญ่หน้าสหกรณ์การเกษตรขุขันธ์ ซึงชาวบ้านมักเรียกกันว่าซุ้มยางใหญ่นี้เป็นเสมือซุ้มประตูเมืองขุขันธ์แบบธรรมชาติ และต่างก็เสียดายที่ต้นยางได้ยืนต้นตายไปคราวเดียวถึงสองต้น ตั้งแต่ประมาณช่วงปี 2557 ที่
ผ่านมา และได้มีการร้องเรียนให้รีบโค่นยางยักษ์นี้ตลอดระยะเวลากว่า 4 ปี ที่ผ่านมา เพราะเกรงว่ากิ่งต้นไม้จะผุพังและหล่นทับผู้คนที่สัญจรผ่านบริเวณนั้น แต่ก็เพิ่งได้รับการแก้ไขอย่างเป็นเรื่องเป็นราวไปเมื่อไม่นานมานี้ จนกระทั่งมีการเข้าโค่นยางยักษ์สองต้นนี้ในที่สุด

ซึ่งการดำเนินการโค่นต้นยางยักษ์ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้แจ้งการปิดถนน โดยรถที่มาจากเมืองศรีสะเกษ จะเข้าเมืองขุขันธ์ และรถจากเมืองขุขันธ์ ที่จะเข้าเมืองศรีสะเกษ จะต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางรอง คือ ถ้ามาจากศรีสะเกษให้เลี้ยวขวาที่แยกตรางสวาย เข้า ทล.2167 และเลี้ยวซ้ายที่แยกหน้า รร.บ้านภูมิศาลา เข้าเส้นทาง บ้านภูมิศาลา - บ้านแทรง และเลี้ยวซ้ายเข้า ทล.2201 ที่แยกบ้านแทรง ตรงเข้าสู่ตัวอำเภอขุขันธ์ และหากจะเข้าเมืองศรีสะเกษ ก็จะต้องใช้เส้นทางดังกล่าวด้วยเช่นกัน ซึ่งรวมระยะทางเกือบ 20 กิโลเมตร จากระยะทางเดิมจากขุขันธ์ - แยกตรางสวาย มีระยะทางแค่ 9 กม. เท่านั้น

หากพิจารณาแล้ว เส้นทางนี้เป็นเส้นทางรองของเมืองขุขันธ์เพียงเส้นทางเดียวจากขุขันธ์สู่เมืองศรีสะเกษที่รถทุกชนิดสามารถผ่านได้อย่างปลอดภัย และไม่มีเส้นทางอื่นที่เทียบได้ และหากมีการปิดถนนสายหลักเช่นนี้อีก จะเพิ่มความยากลำบากและระยะทางที่ไกลยิ่งขึ้นไปอีกอย่างแน่นอน

หากพิจารณาจากเหตุผลหลายๆ อย่างประกอบ เช่น มีการใช้ถนนสายหลักในบริเวณตัวอำเภอเพ่อจัดงานขายสินค้าและประเพณีต่าง ๆ แน่นอนว่าต้องรบกวนพื้นผิวจราจรของเส้นทางหลักนี้อย่างแน่นอน และจากเหตุการณ์ปัจจุบันที่เส้นทางหลักนี้มีรถผ่านค่อนข้างมากเกือบ 2 หมื่นคันต่อวัน (อ่านเพิ่ม http://khukhannakhorn.blogspot.com/2017/07/khukhan-highway-statistics2558-2015.html) ทำให้การจราจรติดขัดในช่วงเร่งด่วน และรถขนาดใหญ่สัญจรลำบาก รวมทั้งมีเหตุผลอื่น ๆ เช่น ถนนในช่วงตัวอำเภอคับแคบเป็นคอขวด ฯ ซึ่งยังไม่รวมกับปัญหาอื่น ๆ ที่จะเกิดขึ้นได้อีกในอนาคตอีก

เหล่านี้เป็นเหตุผลเบื้องต้นเพื่อถกเถียงและช่วยกันคิดพิจารณากันต่อไปว่า "เมื่อไหร่เมืองขุขันธ์จะมีถนนเลี่ยงเมือง" เพื่อลดปัญหาต่าง ๆ และเพิ่มความสะดวกในการสัญจรระหว่างเมือง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น