วันอังคารที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

"ปราสาทตาเล็ง" กับการเป็นมรดกโลกบนเส้นทางราชมรรคา

          ราชมรรคา (Royal Roads) คือเส้นทางเชื่อมโยงบ้านเมืองชั้นในของ ราชอาณาจักรกัมพุเทศ หรือขอมโบราณ อันเป็นบรรพบุรุษร่วมสายหนึ่งของชาวไทยในปัจจุบัน มีหลักฐานเป็น ถนน สะพาน ปราสาท จารึก ปมปริศนา

          นักวิชาการชาวฝรั่งเศสได้ให้ความหมายของคำว่า ราชมรรคา ว่า ราชมรรคา คือ ถนนหลวงของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ซึ่งเรื่องราวของราชมรรคานั้นปรากฏในจารึกปราสาทพระขรรค์ โดยระบุว่ามีเส้นทางสำคัญ 5 สาย จากเมืองพระนคร คือ
                             1. พระนคร-พิมาย
                             2. พระนคร-วัดภู
                             3. พระนคร-สวายจิก        
                             4. พระนคร-ปราสาทพระขรรค์ 
                   และ    5. พระนคร-กำปงธม
ประกอบกับนักวิชาการชาวฝรั่งเศสได้ทำแผนผังแนวถนนโบราณตามที่จารึกระบุ และจารึกยังระบุอีกว่า พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 โปรดให้สร้างบ้านมีไฟหรือธรรมศาลาจำนวนทั้งสิ้น 121 หลัง ตามเส้นทางจากเมืองพระนครไปยังเมืองต่างๆ ในจำนวนนี้พบธรรมศาลา 17 หลัง ในเส้น ทางพระนคร-พิมาย
          ในส่วนของราชมรรคาที่แปลว่าถนนหลวงของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 นั้น ไม่ได้หมายถึงทางหลวงในเฉกเช่นปัจจุบัน หรือทางเกวียนในสมัยโบราณ และไม่ได้มีเส้นทางที่ชัดเจนอะไรนัก แต่ราชมรรคานี้หมายความรวมไปถึง กลุ่มชุมชนต่าง ๆ ซึ่งเป็นกลุ่มชุมชนที่ถูกสร้างขึ้นภายใต้การปกครองของพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 รวมไปถึงเส้นทางที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ได้ใช้แผ่ขยายอำนาจด้วยนั่นเอง ดังจะเห็นได้จากปราสาทขอมต่าง ๆ รวมไปถึงปราสาทตาเล็งของอำเภอขุขันธ์ด้วย

แต่เดิมปราสาทตาเล็งอยู่ในเขตตำบลกันทรารมย์ อำเภอขุขันธ์ ภายหลังมีการแยกตำบลใหม่ ปราสาทตาเล็งจึงอยู่ในเขตตำบลปราสาท

           ปราสาทตาเล็ง ตั้งอยู่ ณ บ้านปราสาท หมู่ที่ 1 ตำบลปราสาท อำเภอขุขันธ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่ตั้งปราสาทห่างจากตัวอำเภอขุขันธ์ไปทางทิศตะวันตกประมาณ 20.1 กิโลเมตร
          ปราสาทตาเล็งเป็นปราสาทขนาดเล็กหลังเดี่ยว อยู่ท่ามกลางป่าใหญ่ทางด้านตะวันออกเขตหมู่บ้าน ตัวปราสาทมีการแกะสลักหินเป็นลวดลายสวยงามมากแห่งหนึ่ง ก่อด้วยหินทราย และอิฐบนฐานศิลาแลง หันหน้าไปทางทิศตะวันออก มีผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส ส่วนยอดด้านบนหักพังกระจัดกระจายอยู่รอบๆตัวปราสาทหมดแล้ว ที่เหลือคือส่วนเรือนธาตุที่ก่อด้วยหินทรายเป็นกรอบประตูปราสาท เฉพาะด้านทิศตะวันออก อีกสามด้านก่อเป็นผนังทึบเป็นประตูหลอก คือแกะสลักหินรูปร่างคล้ายกับประตูแต่ไม่สามารถเข้าออกได้ เรียกว่าประตูหลอก
          ที่เสาประดับผนังของกรอบประตูด้านทิศตะวันออก ต่อเนื่องขึ้นไปจนถึงกรอบหน้าบันมีการแกะสลักลวดลายอย่างสวยงาม โดยบริเวณเสาประดับผนังทั้งสองข้างมีการ แกะสลักเป็นลายก้านขดในแต่ละโค้งตรงกลางสลักเป็นรูปหงส์ บริเวณหัวเสาแกะสลักเป็นลายกลีบบัว ลายใบไม้ ส่วนหน้าบันที่เหลืออยู่เฉพาะปลายกรอบทั้งสองข้าง สลักเป็นรูปนาคห้าเศียรสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่านาคยังมีเขี้ยวเหมือนเขี้ยวเหมือนงูอยู่ด้วย ซึ่งเป็นลวดลายแกะสลักที่ละเอียดปราณีตมาก และที่หน้าบันทับหลังที่ตกอยู่หน้าปราสาทมีการแกะสลักเป็นรูปพระอินทร์ทรง ช้างเอราวัณ ยืนอยู่บนหัวยักษ์ และ โดยรอบตัวปราสาทมีหินมีส่วนประกอบของปราสาทตกอยู่หลายชิ้นกระจัดกระจาย ทับหลังอีกชิ้นหนึ่งตกอยู่ที่พื้นดินเป็นรูปพระอินทร์ทรงหงส์ ทับหลังชิ้นอื่น มีลักษณะคล้ายกัน แต่ภาพใบหน้าหน้าเทวรูปตรงกลางถูกกะเทาะออกไปหมด คิดว่าที่เป็นเช่นนี้น่าจะเกิดจากฝีมือคนขโมย
          ทางด้านทิศตะวันออก เป็นแนวศิลาแลง ที่ เป็นขอบฐานของซุ้มประตู และมีคูน้ำอยู่ล้อมสามด้าน ยกเว้นด้านทิศตะวันออก ตรงไปจากฐานซุ้มประตูทิศตะวันออก มีแนวคันดินคล้ายถนนเป็นแนวตรงไปสู่สระน้ำขนาดใหญ่ที่คนแถวนั้นเรียกว่า (ตระเปียงละเบิก) ซึ่งเป็นแหล่งน้ำใช้สอยที่หล่อเลี้ยงชีวิตของผู้คนคนในชุมชนรอบๆ ปราสาทตาเล็งแห่งนี้ได้อย่างดี
 คูน้ำล้อมรอบปราสาท

 หนองตระเปียงละเบิก
          จากลักษณะทางศิลปกรรม กรมศิลปากรได้สันนิฐานว่าปราสาทตาเล็งได้สร้างขึ้น โดยมีรูปแบบศิลปะเขมรแบบปาปวน มีอายุอยู่ประมาณพุทธศตวรรษที่ 16 - 17 (สร้างขึ้นก่อนการตั้งกรุงสุโขทัยของไทยด้วยซ้ำไป) ได้ขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถาน เมื่อปี พ.ศ.2525 โดยมีขอบเขตโบราณสถาน เป็นพื้นที่ประมาณ 3 ไร่ 2 งานเศษ ปราสาทตาเล็งจึงเป็นโบราณสถานที่น่ามาเที่ยวชมเพื่อศึกษาอารยะธรรมความเจริญ รุ่งเรืองของดินแดนอีสานใต้ในอดีตได้อย่างน่าทึ่งเลยทีเดียว
          ด้วยเหตุผลและหลักฐานต่าง ๆ ของปราสาทตาเล็งที่ได้กล่าวมาข้างต้น ทำให้ปราสาทตาเล็งเข้าไปเกี่ยวข้องในเส้นทางราชมรรคา เนื่องจากมีอายุในช่วงพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 และปราสาทหินพิมาย ซึ่งก็คือหนึ่งในเส้นทางที่พระเจ้าชัยวรมันที่ 7 ใช้ในเส้นทาง พระนคร – พิมาย นั่นเอง
       ปัจจุบันปราสาทลุมพุก หรือ ปราสาทตาเล็ง จึงเป็นหนึ่งในปราสาทหินที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเพื่อยกให้เป็นมรดกโลก ในชื่อ"ราชมรรคา" หรือ "Royal Roads" ร่วมกับปราสาทหินอื่นๆ อาทิเช่น ปราสาทหินพิมาย ปราสาทหินพนมรุ้ง ปราสาทสระกำแพงใหญ่ ปราสาทภูมิโปน ปราสาทศีขรภูมิ และอื่นๆอีกมากมาย
          เป็นที่น่าเสียใจยิ่งนักว่า ปราสาทตาเล็งกำลังจะได้รับการยกให้เป็นมรดกอันล้ำค่าของโลก แต่เหตุไฉนจึงไม่มีหน่วยงานใด ๆ เข้ามาทำนุบำรุงตัวปราสาทตาเล็ง จนทำให้ทรุดโทรมได้ถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแค่ตัวปราสาทที่ทรุดโทรม ภูมิทัศน์โดยรอบก็กลับทรุดโทรมไปด้วย... หากปราสาทตาเล็งอยู่ในความรับผิดชอบดูแลของหน่วยงานใด หากท่านได้มีโอกาสเปิดมาอ่านบทความนี้ ก็ขอให้ท่านได้รีบเร่งเข้ามาพัฒนาปราสาทแห่งนี้อย่างเร่งด่วน...



เรียบเรียงบทความจาก http://www.oknation.net/blog/print.php?id=411076 และจากบทความปราสาทตาเล็งในสารานุกรมเสรีวิกิพีเดีย
ขอขอบคุณภาพประกอบจากเฟซบุก สุเพียร คำวงศ์

2 ความคิดเห็น:

  1. ถ้าได้รับการบูรณะนี่ คงจะเป็นปราสาทหินที่สวยงามมากที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดนะครับ ดูจากลวดลายแล้วมีความประณีตมาก

    ตอบลบ
  2. ไม่ระบุชื่อ11 มิ.ย. 2559 02:31:00

    ขอสอบถามค่ะมีปัญหาด้านไหนบ้างค่ะ(ขอสอบถามเพื่อนำไปทำวิจัยค่ะ ขอบคุณค่ะ)

    ตอบลบ